18 ก.ค. 2554

หลักการเปลี่ยน Active voice เป็น Passive voice

Passive Voice

หลักการเปลี่ยน Active voice  เป็น Passive voice
Active Voice คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้แสดง หรือเป็นผู้ที่กระทำกริยาตัวนั้น หมายความว่า ในประโยคนั้นเรายกเอาประธานซึ่งเป็นผู้ทำกริยา ขึ้นมากล่าวเป็นจุดสำคัญ
Passive Voice คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำหรือเป็นผู้ได้รับผลจากการกระทำอันนั้น หมายความว่า ในประโยคนั้นเรายกเอาสิ่งที่ถูกเขาทำขึ้นมากล่าวเป็นจุดสำคัญหลักการเปลี่ยน
1. เอา Object ใน Active ไปเป็น Subject ใน Passive
2. ใช้กริยา Verb to be ให้ถูกต้องตามพจน์ และ Tense ดิมของ Active
3. กริยาแท้ต้องใช้ตัวเดิมกับ Active แต่ต้องเป็นช่องที่ 3
4. เอา Subject ในประโยค Active ไปเป็นกรรมตามหลังบุรพบท by แล้วนำไปวางไว้หลังกริยาช่องที่ 3 ในประโยค Passive Voice ตัวอย่างเช่น
-Active : He kicked a football yesterday.
-Passive : A football was kicked by him yesterday.
ประโยคแรก แปลว่า "เขาเตะฟุตบอลเมื่อวานนี้"
ประโยคสอง แปลว่า "ฟุตบอลถูกเตะโดยเขาเมื่อวานนี้
         โครงสร้างของประโยค Passive ทั้ง 12 Tenses   <สำคัญมาก>
1.Present Simple = S. + is , am , are + V.3 + by.....

2.Present Continuous = S. + is , am , are + being + V.3 + by....
3.Present Perfect = S. + has been , have been + V.3 + by....
4.Present Per. Conti. = S. + has been , have been + being + V.3 + by....
5.Past Simple = S. + was , were + v.3 + by....
6.Past Continuous = S. + was being , were being + v.3 + by....
7.Past Perfect = S. + had been + v.3 + by....
8.Past Per. Conti. = S. + had been being + v.3 + by....
9.Future Simple = S. + will be , shall be + v.3 + by....
10.Future Continuous = S. + will be , shall be + being + v.3 + by....
11.Future Perfect = S. + will have , shall have + been + v.3 + by....
12.Future Per. Conti. = S.+ will have been being, shall have been being+v.3+by....
*เมื่อประโยค Active Voiceมี Object 2 ตัว ก่อนอื่นจะต้องรู้ก่อนว่า Object (กรรม) 2 ตัวนั้นคืออะไรบ้าง ได้แก่
1. Direct Object (กรรมตรง คือ สิ่งของ)
2. Indirect Object
(กรรมรอง คือ บุคคล)
ถ้าประโยค Active Voice นั้นมี กรรมตรงและกรรมรองมาอยู่ด้วยกันทั้ง 2 ประโยคเดียวเช่นนี้ เวลาเปลี่ยนเป็น Passive นิยมเอา กรรมรองคือบุคคล ไปเป็นประธานในประโยคPassive มากกว่ากรรมตรง อย่างไรก็ตาม จะเอากรรมตรงขึ้นไปเป็นประธานก็ได้แต่ต้องใส่ to ข้างหน้ากรรมรองคือบุคคลนั้นทุกครั้ง ต่อไปนี้จะได้ยกตัวอย่างให้ดูทั้งแบบกรรมรองและกรรมตรงขึ้นไปเป็นประธานในประโยค Passive สังเกตวิธีการเปลี่ยนให้ดีดังนี้
-Active : The teacher gave me a book yesterday.
-Passive : I was given a book by the teacher yesterday. (กรรมรอง)
-Passive : A book was given to me by the teacher yesterday. (กรรมตรง)
คำแปล คุณครูให้หนังสือเล่มหนึ่ง แก่ฉันเมื่อวานนี้

ฉันถูกให้หนังสือเล่มหนึ่งโดยคุณครูเมื่อวานนี้
หนังสือเล่มหนึ่งถูกให้แก่ฉันโดยคุณครูเมื่อวานนี้
**เราไม่จำเป็นต้องนำตัวประธานในประโยค Active นั้นไปเป็นกรรมตามหลัง "by" ในประโยคPassive เสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประธานในประโยค Active เป็นคำต่อไปนี้ ยิ่งไม่นิยมนำไปเป็นกรรม ซึ่งทั้งนี้มักจะละผู้กระทำไว้ในฐานที่เข้าใจกัน หมายความว่าไม่ต้องนำเอาคำที่เป็นประธานจำพวกนี้ไปเป็นกรรมตามหลัง by ในประโยค Passive เช่น
-Active : Smeone gave a beggar some money.
มีคนให้เงินแก่คนขอทาน

-Passive: A beggar was given some money. (no "by someon")
ขอทานถูกให้เงิน (ไม่ต้องใส่ by someone เข้ามา)
-Active : No one likes this picture.
ไม่มีใครชอบภาพนี้
-Passive: This picture isn't liked. (no "by no one")
ภาพนี้ไม่มีใครชอบ (หรือไม่ถูกชอบโดยใครทั้งนั้น) เป็นต้น
-Passive: Let the window be opened.
ให้หน้าต่างถูกเปิดด้วย
-Active: Read the book now.
จงอ่านหนังสือเดี๋ยวนี้

-Passive: Let the book be read now.
ให้หนังสือถูกอ่านเดี๋ยวนี้
-Active: Do the exercises.                                                         
ทำแบบฝึกหัดเสีย
-Passive: Let the exercise be done.
ให้แบบฝึกหัดถูกทำเสีย
***อย่างไรก็ตาม ประโยคคำสั่งที่เป็น Passive Voice นั้นสำนวนภาษาไทยเราไม่นิยมพูดกันเพราะฉะนั้นที่ได้แปลไว้นั้น อาจฟังดูแล้วพิลึก ยังกับคนพูดภาษาไทยไม่เป็น แต่ภาษาอังกฤษนั้นเขาพูดกันได้ประโยคเช่นนี้ และนิยมพูดกันบ่อยเสียด้วยก่อนจบเรื่องนี้ ขออธิยายข้อสรุปด้วยความหวังดีดังนี้
1. ประโยค Passive Voice ต้องมี Verb to be อยู่หน้ากริยาช่อง 3
2. ประโยค Active Voice ที่ไม่มีกรรม (Object) ห้ามนำมาแต่งเป็น Passive Voiceโดยเด็ดขาด
3. การนำเอา Subject ในประโยค Active มาเรียงตามหลัง by ในประโยค Passive นั้นถ้าผู้พูดไม่แน่ใจว่า ผู้ฟังจะเข้าใจว่า สิ่งนั้น ๆ ถูกใครหรืออะไรทำเช่นนี้ จะใส่ by เข้ามาทุกครั้งที่พูดก็ได้ แต่ถ้ามั่นใจว่า ผู้ฟังเข้าใจดีว่า สิ่งนั้นถูกอะไรหรือใครทำเช่นนี้ จะไม่ใส่เข้ามาทุกครั้งที่พูดก็ได้ หวังว่าคงเข้าใจ
                         
        

1 ความคิดเห็น: